อินโดนีเซียเลือกประธานาธิบดีคนใหม่
อินโดนีเซียเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ มีอะไรเป็นเดิมพัน อินโดนีเซีย ประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จะเปิดการเลือกตั้งในวันพุธนี้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกือบ 205 ล้านคนในการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีและ สภานิติบัญญัติ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มปฏิรูปประชาธิปไตยในปี 2541
หมู่เกาะที่แผ่กิ่งก้านสาขาประกอบด้วยเกาะ 17,000 เกาะ และผู้คนมากกว่า 270 ล้านคนจากกลุ่มชาติพันธุ์ประมาณ 1,300 กลุ่ม ถือเป็นปราการประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายและมีชีวิตชีวาทางเศรษฐกิจของระบอบเผด็จการ รัฐตำรวจ และประชาธิปไตยที่เพิ่งเกิดใหม่
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะกำหนดว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดี โจโค วิโดโด หรือที่รู้จักในชื่อ โจโควี ซึ่งดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 และวาระสุดท้าย
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกกำหนดให้เป็นการแข่งขันแบบ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน ปราโบโว ซูเบียนโต และอดีตผู้ว่าการอีก 2 คน อานีส บาสเวดาน และกันจาร์ ปราโนโว หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 50% ในรอบแรก จะมีการแข่งขันระหว่างสองอันดับแรกในวันที่ 26 มิถุนายน
ผู้สมัครหลายหมื่นคนในประเทศหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งในรัฐสภาระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับเขตราว 20,000 ตำแหน่ง มีผู้สมัครประมาณ 10,000 คนจากพรรคการเมือง 18 พรรค กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งในรัฐสภาแห่งชาติที่มีที่นั่ง 580 ที่นั่งเพียงแห่งเดียว
พรรคการเมืองจะต้องมีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งอย่างน้อยทุกๆ สามตำแหน่งในบัญชีรายชื่อพรรคของตน และพรรคการเมืองต่างๆ จะต้องได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย 4% ทั่วประเทศจึงจะมีคุณสมบัติเป็นตัวแทนในรัฐสภาแห่งชาติ พรรคหรือแนวร่วมของพรรคต่างๆ จำเป็นต้องควบคุมที่นั่งอย่างน้อย 20% ในรัฐสภาแห่งชาติเพื่อเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อินโดนีเซียเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ มีอะไรเป็นเดิมพัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
พลเมืองอินโดนีเซียที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไปสามารถลงคะแนนเสียงได้ แต่ตำรวจและทหารไม่ได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะทำได้ก็ตาม ในการเลือกตั้งปีนี้ ผู้ลงคะแนนเสียงที่ลงทะเบียนประมาณ 52% มีอายุต่ำกว่า 40 ปี โดยหนึ่งในสามของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งทำให้ “การลงคะแนนเสียงของเยาวชน” มีความสำคัญ และผู้สมัครได้ใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายพวกเขาผ่านทางโซเชียล แคมเปญสื่อ
ผู้ลงคะแนนสามารถลงคะแนนได้ที่หน่วยเลือกตั้งมากกว่า 820,000 แห่งทั่วเขตเวลาทั้งสามของอินโดนีเซีย การเลือกตั้งจะเปิดเวลา 7.00 น. และปิดเวลา 13.00 น. และจะมีเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งและพนักงานอิสระประมาณ 7 ล้านคนเป็นผู้ควบคุม ชาวอินโดนีเซียที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศลงคะแนนตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่หน่วยเลือกตั้ง 3,000 แห่งในหลายประเทศหรือทางไปรษณีย์
เมื่อเข้าไปในคูหาลงคะแนน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องจัดการกับบัตรลงคะแนน 5 ใบพร้อมกัน และเลือกหนึ่งในสามคู่ของผู้หวังชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี รวมถึงตัวแทนในระดับประเทศ ระดับจังหวัด ภูมิภาค รีเจนซี่ และเมือง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลือกตั้งที่ซับซ้อนในโลก
เครดิต. ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ