The Screamer หรือชายผู้เปล่งเสียงคำราม
The Screamer หรือชายผู้เปล่งเสียงคำราม คริสเตียน เอริคเซ่น ส่วนหนึ่งคือชีวิตของเขาโดนมองข้าม หรือโดนตัดสินว่าเขาอ่อนแอเกินไป นั่นคือปมที่ปลุกไฟในใจ ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะระดับโลกในเวลานี้
คริสเตียนรู้จักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 2 ขวบ หลังจากนั้นกีฬาชนิดนี้ก็กลายเป็นส่วนนึงของครอบครัว เขามีส่วนทำให้ ลูอีส เอริคเซ่น น้องสาว ชอบฟุตบอลตามมา กระทั่งได้ไปติดทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติเดนมาร์ก
คริสเตียนไม่ได้มีชื่อในเรื่องความแข็งแกร่ง แต่เขามีเทคนิคที่สูงมาก ทักษะของเขาฉายแสงแม้ในวันที่โอบี โอเดนเซ่ ทีมระดับเยาวชนของเขา แพ้ในรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลลีกเยาวชนเดนมาร์ก แต่นั่นก็เพียงพอเพราะแมวมองจากทั่วโลกเดินทางมาสืบฟอร์มของเขาด้วยเขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ในวัย 15 ปี เขามีโอกาสจะได้ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลน่า , เอซี มิลาน และเชลซี แม้คุณอาจจะเห็น คริสเตียน เป็นหนุ่มที่เหมือนจะขี้อาย อันที่จริงเขาเป็นคนธรรมดาที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจเกินร้อย นับตั้งแต่รู้ว่า มีทีมจากยุโรปสนใจ เขาไม่เคยอยู่ห่างจากลูกฟุตบอลอีกเลย ขนาดกลับบ้าน ฝนตก สนามหญ้าหน้าบ้านเปียกแฉะ เขาก็ยังออกไปฝึกเลี้ยงบอลแม้ดินจะกลายเป็นโคลน
ความตั้งใจของคริสเตียนไม่ได้ผล ทั้งสามสโมสรไม่ตอบรับเขา แต่ที่เจ็บที่สุดคือ เชลซี ทีมงานของพวกเขาบอกว่า คริสเตียน อ่อนแอ และไม่ได้เก่งขนาดนั้น ด้วยคำพูดนี้ ทำให้โธมัส เอริคเซ่นผู้พ่อ เจ็บใจมาก เขาต้องการให้ลูกของเขากลายเป็นสตาร์ระดับโลกให้ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าลูกของเขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่ใครเคยประมาท ด้วยความพยายาม ท้ายที่สุด ก็มีสโมสรหนึ่งที่ให้โอกาส คริสเตียน นั่นคือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรที่ว่ากันว่าเป็นโรงเรียนฝึกฟุตบอลให้กับเด็กๆ ทั่วโลก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
The Screamer หรือชายผู้เปล่งเสียงคำราม คริสเตียน เอริคเซ่น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ความฝันของคริสเตียนเป็นจริงแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากแชมป์ลีกดัตช์สมัยที่เขายังเป็นดาวรุ่ง แชมป์สคูเด็ตโต้กับอินเตอร์ มิลาน เป็นความสำเร็จรายการใหญ่ครั้งสำคัญที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา
ในฐานะเพลย์เมกเกอร์อันดับหนึ่ง ความภูมิใจของเขาคือการได้เล่นฟุตบอลภายใต้สายตาของครอบครัวนั่นคือแฟนบอลในบ้านเกิดของตัวเอง เกมที่พาร์คเคน สเตเดี้ยม เมืองโคเปนเฮเก้นเมื่อคืน เหมือนเขาได้ย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นของอาชีพค้าแข้งอีกครั้ง โชคดีที่ภาพซึ่งดับวูบลงไปชั่วขณะของเอริคเซ่น ไม่ใช่ภาพสุดท้าย ด้วยวิทยาการ , การเตรียมพร้อมอย่างดีของยูฟ่า ต่อกรณีนักฟุตบอลที่อาจประสบอุบัติเหตุฉับพลันด้วยอาการหัวใจล้มเหลว (Sudden Cardiac Arrest) ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ อาทิ ซิม่อน คยาร์ กัปตันทีม ที่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่ทีมแพทย์จะมาถึง และด้วยหัวจิตหัวใจที่เป็นนักสู้ของตัวเขาเอง แม้ในช่วงเวลานาทีชีวิต แต่คริสเตียน บอกโลกว่าเขาจะไม่ยอมแพ้
ผมจะเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างและทำมันด้วยตัวของผมเอง คำพูดของคริสเตียน ที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ขณะที่เขายังเล่นให้กับสเปอร์ส ไม่มีใครรู้ว่า คริสเตียน จะแข็งแรงและกลับมาเล่นฟุตบอลได้เมื่อไหร่ แต่หลังจากเขาเอาชนะแม้กระทั่งหัวใจ ในร่างกายของตัวเขาเองมาได้
เครดิต. ufabet888